ประกันภัย สินเชื่อ OK Partner บทความ วงเงิน

วิธีเปลี่ยนลูกค้าเป็นลูกค้าประจำให้ขายดีแบบตะโกน

วิธีเปลี่ยนลูกค้าเป็นลูกค้าประจำให้ขายดีแบบตะโกน

วิธีเปลี่ยนลูกค้าเป็นลูกค้าประจำให้ขายดีแบบตะโกน

การให้ความสำคัญและสร้างฐานลูกค้าประจำเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในยุคนี้ อีกทั้งเป้าหมายทางการตลาดของธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการลูกค้าที่ประทับใจในสินค้าและการบริการและกลับมาซื้อซ้ำอยู่เสมอ เพราะตามหลักการของ Pareto ลูกค้าประจำคิดเป็นเพียง 20% ของฐานลูกค้า แต่ในขณะเดียวกันก็มียอดขายกว่า 80% ที่มาลูกค้าประจำ ตามสถิติแล้วค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าใหม่นั้นโดยเฉลี่ยมีอัตราที่สูงกว่าการรักษาลูกค้าประจำถึง 5 เท่า อีกทั้งกลุ่มลูกค้าประจำยังมีส่วนช่วยให้เกิดการตลาดแบบปากต่อปาก เพราะลูกค้าจะเต็มใจรีวิวข้อมูลร้าน แชร์ข้อมูลบอกต่อเพื่อน หรือให้คนรอบข้างไปแบบฟรีๆ ช่วยให้ธุรกิจประหยัดต้นทุนในการโปรโมทแบรนด์ได้อีกด้วย แล้วการตลาดแบบไหนที่จะสามารถเปลี่ยนลูกค้าขาจร หรือลูกค้าหน้าใหม่ให้กลายมาเป็น “ลูกค้าประจำ” ได้ บทความนี้มีคำตอบให้กับคุณค่ะ

5 วิธีเปลี่ยนลูกค้าเป็นลูกค้าประจำให้ขายดีแบบตะโกน

1. ตั้งชื่อร้านให้จำง่าย ไม่ยาวเกินไป

ชื่อร้านเป็นสิ่งที่ลูกค้ามองเห็นเป็นอย่างแรก ชื่อร้านที่ดีไม่ควรมากกว่า 3-4 พยางค์ จดจำง่าย กระชับ พิมพ์ค้นหาง่าย อ่านออกเสียงง่ายหรือแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังสามารถเพิ่มทำเลที่ตั้งหรือประเภทสินค้าที่ขายต่อท้าย เพื่อบ่งบอกถึงตัวตนและจุดเด่นของร้านได้อีกด้วย จะยิ่งทำให้ลูกค้าสะดุดตา ช่วยให้ง่ายต่อการทำการตลาด  เมื่อลูกค้ามีความต้องการในการสั่งสินค้านั้นๆ หากลูกค้านึกถึงชื่อร้านเราง่าย จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำ

หากคุณยังคิดชื่อร้านไม่ออกหรือยังได้ไม่โดนใจ บทความนี้อาจมีทางออกให้กับคุณ ชื่อร้านดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ไอเดีย & ทริคในการตั้งชื่อแบรนด์ได้ด้วยตัวเอง

2. สินค้าคุณภาพดี ตรงปก

ค้นหาความต้องการของลูกค้าและพยายามพัฒนาสินค้าที่ทำให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์เราอยู่เสมอ โดยนำเสนอจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ให้กับลูกค้าให้ได้มากที่สุด และในกรณีที่คุณมีช่องทางการขายทางออนไลน์เพียงช่องทางเดียว ซึ่งทำให้ลูกค้าจะไม่ได้เห็นสินค้าจริงก่อนซื้อ เห็นเพียงรูปภาพและข้อความเท่านั้น เพราะฉะนั้น หากมีลูกค้าใหม่เข้ามาลองสั่งสินค้าจากร้านของเราไป สินค้าที่นำเสนอทางออนไลน์กับสินค้าที่ลูกค้าได้รับจริงๆ ต้องตรงปก คุณภาพดี มีมาตรฐาน จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าและมัดใจลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ เพราะลูกค้าจะรู้สึกเชื่อมั่นในร้านค้ามากขึ้น กลับกันหากลูกค้าได้รับสินค้าที่ไม่ตรงปก นอกจากจะไม่เกิดการซื้อซ้ำแล้ว ลูกค้าอาจบอกต่อหรือรีวิวในเชิงลบกับและทำให้ร้านค้านั้นมีความน่าเชื่อถือที่น้อยลง

3. สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า

เข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น เล่าเรื่องที่ลูกค้าอยากฟังมากกว่าเรื่องที่แบรนด์อยากเล่า พยายามวิเคราะห์พฤติกรรมและปัญหาของลูกค้า โดยนำเสนอผ่านการทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อให้เกิดการ Engagement เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการ Live, Stories หรือ Reels อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร้านของคุณไม่ห่างหายจากลูกค้า

4. อย่าทำคอนเทนต์ขายของมากเกินไป

ในการลงคอนเทนต์ ควรมีการวางแผนการสื่อสาร Timeline หรือ Storyboard เพื่อหาวิธีการนำเสนอจุดขายของแบรนด์ให้เป็นเรื่องราวแบบใหม่ หรือการเล่าเรื่องที่สนุกที่ไม่ขายของจนเกินไป  ไม่ซ้ำกับแบรนด์อื่น เช่น มีการแจ้งโปรโมชันที่ตามเทรนด์หรือมีชาเลนจ์ต่างๆ แจกสินค้าให้ลูกค้ามาร่วมสนุก เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ นำมาซึ่งการขายในอนาคต  แม้ว่าลูกค้าอาจไม่ได้ซื้อทันทีหลัง แต่ก็ควรคิดไว้เสมอว่าโอกาสหน้าลูกค้าอาจกลับมาซื้อที่ร้านเรา 

5. ตอบแชทไว ได้ใจลูกค้า

การตอบแชทลูกค้าไว เข้าใจลูกค้า ตั้งใจตอบและไม่โมโห เป็นสิ่งที่ช่วยสร้าง First Impression ตั้งแต่แรกคุย นับเป็นการใส่ใจลูกค้าอย่างหนึ่ง อีกทั้งไม่ควรปล่อยให้ลูกค้ารอคำตอบนาน โดยที่ไม่มีแจ้งอะไรเลย เพราะอาจทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปซื้อจากร้านอื่นได้ นอกจากนี้การใช้ภาษาในการแชทก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ภาษาที่สุภาพและเป็นมิตร ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงง่าย อาจมีเทคนิคในการคุยกับลูกค้า อย่างเช่น การเสนอโปรโมชัน มอบส่วนลดพิเศษหรือนำเสนอข้อมูลเพื่อโน้มน้าวใจลูกค้าให้ได้มากที่สุดให้กับลูกค้าเพื่อให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น และถึงแม้ว่าลูกค้าอาจไม่ได้ซื้อทันทีหลังจากที่เข้ามาสอบถามข้อมูลสินค้า แต่ว่าในโอกาสหน้าลูกค้าอาจกลับมาซื้อที่ร้านเราได้

6. ศึกษาคู่แข่งอยู่เสมอ

การศึกษาคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชัน การตั้งราคาหรือการออกสินค้าใหม่ ช่วยให้ร้านสามารถวางแผนเตรียมกลยุทธ์รับมือในอนาคตได้ นอกจากนี้ยังเป็นการวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อที่จะได้เปรียบเทียบหาจุดอ่อนและจุดแข็ง เป็นแนวทางในการพัฒนาร้านให้ดียิ่งขึ้น ดึงจุดเด่นและตัวตนของแบรนด์ออกมาให้ชัดเจน สื่อสารอย่างสม่ำเสมอให้เกิดภาพจำกับลูกค้านึกถึงแบรนด์เรา เป็นแนวทางในการพัฒนาร้านให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย

ลูกค้าประจำมีความสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ การรักษาลูกค้าประจำทำได้ง่ายกว่าและให้ผลกำไรมากกว่าการหาลูกค้าใหม่ หากลูกค้ามีความสนใจอย่างยิ่งที่ต้องการจะซื้อสินค้าของคุณแล้ว คุณเพียงกระตุ้นให้ถูกจุด ลูกค้าก็จะยินดีที่จะจ่ายเงินให้คุณในทันที และหลังจากลูกค้าได้รับสินค้าหรือได้ใช้บริการแล้วประทับใจแล้ว  ก็ช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำจนกลายเป็นลูกค้าประจำ เมื่อร้านมีลูกค้าประจำแล้ว ลูกค้าก็จะเปรียบเสมือนเป็นตัวกลางในการทำ  Social Proof  เข้ามาช่วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ให้มากขึ้น

 Social Proof คือ ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่ทำให้คนเราเชื่อใจกับความคิดเห็นของผู้อื่นในสังคมว่าส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจ

สนใจผลิตภัณฑ์ของ Credit OK สามารถติดตามได้ผ่านทาง

เว็บไซต์ : www.creditok.co 

Line Official : @creditok

บทความอื่นเพิ่มเติม : https://blog.creditok.co/